วันศุกร์ที่ 25 กันยายน พ.ศ. 2558

การเชื่อมจุด connect the dot

Connec the dot

เมื่อก่อนผมเคยมีคำถามกับตัวเองว่า ผมจะเรียนฟิสิกส์ เคมี ชีวะ ไปทำไม ในเมื่อเรียนจบไปเป็นทหารมันไม่ได้ใช่...เสียเวลา ไม่มีประโยชน์!! และตอนนี้ผมต้องบอกว่า เมื่อก่อนนั้นผมคิดผิด และต้องขอขอบคุณครู-อาจารย์ ที่สอนให้ความรู้ผมมา...เพราะความรู้จากตรงนี้เองที่ทำให้ผมเข้าใจกฎธรรมชาติ เข้าใจสัจธรรมได้อย่าลึกซึ้ง เพราะวิทยาศาสตร์สามารถพิสูจน์ในสิ่งที่พระพุทธเจ้าตรัสรู้ได้...มันสามารถอธิบายในเรื่องที่เข้าใจได้ยากให้เข้าใจได้ง่ายๆ

เพราะชีวิตมันคือการเชื่อมจุด( Connoc the dot )  เชื่อมจากจุดหนึ่งไปยังอีกจุดหนึ่ง...ในบางครั้งอาจเกิดสิ่งที่เราไม่ชอบ หรือ ความผิดหวัง แต่ให้เชื่อเถอะครับว่า สิ่งที่เราพบเจอมันต้องมีสิ่งที่ดีมาด้วยแน่ๆ...เท่าแต่ตอนนี้มันยังไม่รู้ว่าคืออะไร แต่ให้เชื่อไว้ก่อนเลยว่ามันคือสิ่งดี แล้ววันหนึ่งไม่ช้าหรือเร็วเราจะหาจุดเชื่อมดีๆจากเหตุการณ์นั้นๆได้

อย่างเช่น...บางคนมีชีวิตที่ดีมั่งมีขึ้นมาได้ก็เพราะ ในอดีตเขาเกิดมาลำบากยากจนต้องดิ้นรนด้วยตนเอง จนปัจจุบันมีชีวอตที่ดีขึ้นมาได้ก็เพราะอดีตที่เลวร้ายนั้นเอง...คนสำเร็จสูงสุดในสังคมมากมายล้วนมีอดีตที่ไม่น่าจดจำทั้งนั้น

วันพฤหัสบดีที่ 24 กันยายน พ.ศ. 2558

ความเป็นตัวตนของเราคืออะไร

เส้นทางแห่งตัวตน

ความหมายของความมีตัวตนของเรามีอยู่สองทาง

ทางแรก เกิดจากสิ่งที่คนอื่นมองเราจากภายนอก หรือจากการที่เราถูกสังคมประเมิน

ทางที่สอง  เกิดจากความเป็นเนื้อแท้ที่อยู่ภายในตัวเรา เป็นสิ่งแท้แน่จริงที่มีเพียงตัวเราเท่านั้นที่รู้

คนเราต้องมีความมั่นคง แน่วแน่ ไม่ว่าฝนตกหรือฟ้าร้อง เราต้องรักษาจิตวิญญาณคงความเป็นตัวเรา ไม่ขายตัวเองให้กับสิ่งที่เราไม่เชื่อ...บนเส้นทางอันยาวไกลที่เรียกว่าชีวิต  ทุกคนถูกทดสอบด้วยความไม่ถูกต้องเสมอ

วันศุกร์ที่ 18 กันยายน พ.ศ. 2558

เรื่องในบ้านที่เราอาจลืม

เรื่องในบ้านที่เราอาจลืม

ผมเห็นคนมากมายใกล้ตัวผมมีความขยันตั้งหน้าตั้งตาทำบางสิ่งเพื่อให้โลกยอมรับ...เขาพูดจาดี และ ปฏิบัติดีกับทุกคนที่เขาไปพบ ผู้คนมากมายรู้จักเขา เขามีชื่อเสียง...หลายคนชื่นชอบความสามารถ ความตั้งใจ ในตัวเขา...เขาภูมิใจในตัวเองที่คนสังคมยกย่องเขา นายชอบ นายชื่นชม เขาเดินยืดอกในสังคมอย่างมั่นใจว่าเขาเก่งที่สุด...แต่สิ่งหนึ่งที่เขาละเลยคือการปฏิบัติแบบเดียวกับที่เขาปฏิบัติกับคนข้างนอกให้กับคนในบ้าน

ส่วนตัวผม ผมชื่นชมคนที่มีความขยันรักความก้าวหน้า คนที่รักการเติบโต ผมชอบคนแบบนี้...แต่สิ่งที่ผมจะพูดถึงก็คือการเอาใจใส่ความรู้สึกของคนใกล้ตัวโดยเฉพาะคนในบ้าน บางคนพูดกับนายเพราะดีมากแต่พอพูดกับพ่อแม่ภรรยาคนในบ้านกลับตะคอก...บางคนดูแลปฏิบัติกับคนอื่นดีทุกอย่างแต่กับคนในบ้านไม่เคยดูแลเอาใจใส่พาไปเที่ยวกินข้าวนอกบ้านเลย

คนเราจะพบเจอความจริงบางสิ่งเมื่อเจอจุดต่ำสุดของชีวิต...บางคนต้องเจ็บป่วยปางตายเข้า รพ. ก่อน ถึงจะรู้ว่าแท้ที่จริงแล้วคนที่รักเราที่สุด และคนที่เราควรเอาใจใส่ที่สุด คือคนในบ้าน ถ้าไม่ได้เข้า รพ. ก็จะยังไม่รู้

แน่นอนสิ่งที่คนเราทุกคนตามหาคือ" ความรู้สึกดี " แต่ความรู้สึกดีที่มากจากภายนอกนั้นมันมีได้ไม่นานเดี่ยวมันก็หายไป แต่การให้ความสุขกับความใกล้ตัวนี้ คุณจะเจอความรู้สึกที่มีความสุขจริงๆ โดยไม่ต้องไปแสวงหาการยอมรับจากที่ไหน

ไม่มีชัยชนะที่แท้จริงบนซากปะระหักพัง หรือชัยชนะที่ได้มาจากการเสียความรู้สึกของผู้อื่น และคนรอบตัวไม่ได้ยินดีด้วย...คนเราควรหันมาใส่ใจคนใกล้ตัวให้มากๆ ไม่ว่าจะเป็น พ่อ แม่ ภรรยา หรือ ลูกๆ

มีคำพูดคำหนึ่งของคุณบัณฑิต อึ้งรังษี ที่ผมยืดถืออยู่คือ ไม่มีความสำเร็จนอกบ้านที่ไหน จะมาทดแทนความล้มเหลวในบ้านได้

วันพุธที่ 16 กันยายน พ.ศ. 2558

ความสำเร็จกับอีโด้

อย่ายึดติดความสำเร็จหรือล้มเหลวในอดีต ถ้าอยากประสบความสำเร็จในอนาคต

หลายคนพอเริ่มสำเร็จได้รับคำชม ก็เริ่มยึดติดกับความสำเร็จ หลงคำชื่นชมจนเริ่มประมาท เอาความคิดตนเป็นใหญ(Ego) มองคว่มสำเร็จตนเองเป็นสำคัญ จนละเลยการใส่ใจควรมรู้สึกผู้อื่น โดายหารู้ไม่ว่าที่เราเติบโตมาได้ทุกวันนี้ สิ่งหนึ่งก็ด้วยการสนับสนุนจากใครบางคนรอบตัว และเมื่อลืมจุดนี้ไป ชีวิตคุณจะค่อยๆมาจุดเดิม

เมื่อคุณพูดสิ่งใดคนเขาจะลืม  หรือ เมื่อคุณทำสิ่งใดคนเขาก็จะลืมเช่นกัน แต่ ถ้าคุณทำให้เขารู้สึก ไม่ว่าจะบวกหรือลบ เขาจะจำคุณ